EDUCATION
Facebook ประเทศไทยจัดแคมเปญ ช่วยเหลือ SMEs ไทยด้วยการเพิ่มทักษะดิจิทัล “เรียนฟรี”
Published
2 ปี agoon
By
admin
หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 เริ่มคลี่คลาย หลายธุรกิจ SMEs คงโดนผลกระทบกันไม่น้อย วันนี้ทาง Facebook ประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัวหลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ภายใต้ชื่อโครงการว่า “Boost with Facebook” เพื่อเป็นการช่วยเสริมทักษะด้านดิจิทัลให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย ซึ่งหลักสูตรทั้งหมดประกอบไปด้วยเนื้อหาประมาณ 10 ตอน ถ่ายทอดสดผ่านเพจ Facebook for Business เป็นการบรรยายภาษาไทยในช่วงวันที่ 14 กรกฎาคม – 15 กันยายน พ.ศ.2563จะมีการออกอากาศทุกวันอังคารเวลา 14.00 น.
หัวข้อและวันที่ถ่ายทอดสดทั้งหมดมีดังนี้
- 14 กรกฎาคม – การปรับตัวเพื่อฝ่าวิกฤตสำหรับธุรกิจ: เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตวิถีใหม่
- 21 กรกฎาคม – สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ของคุณด้วย Facebook
- 28 กรกฎาคม – บอกเล่าเรื่องราวธุรกิจของคุณด้วย Instagram
- 4 สิงหาคม – วางกลยุทธ์การโฆษณาอย่างไรให้ได้ผล
- 11 สิงหาคม – ขยายธุรกิจของคุณด้วยตัวจัดการโฆษณาบน Facebook
- 18 สิงหาคม – ทำความเข้าใจเรื่องนโยบายโฆษณา Facebook
- 25 สิงหาคม – ขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจด้วย Facebook Messenger
- 1 กันยายน – สร้างฐานลูกค้าของคุณด้วย Facebook Pixel
- 8 กันยายน – การสร้างรูปแบบโฆษณาที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ
- 15 กันยายน – การวัดประสิทธิภาพของโฆษณาต่อธุรกิจของคุณ
คุณชวดี วงศ์พยัต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาการเติบโตธุรกิจ ประจำ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า

“จากภาวะ New Normal หรือ Next Normal ที่เป็นผลมาจากการระบาดของ COVID-19 ทำให้ Facebook มีความตั้งใจว่าอยากมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูภาคธุรกิจประเทศไทย จากการทำงานร่วมกับธุรกิจกว่า 140 ล้านรายทั่วโลก บนแฟลตฟอร์มของเรานี้ เราตระหนักได้ว่า ธุรกิจไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างปกติ ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการในประเทศไทยแล้วก็ตาม ธุรกิจ SMEs ที่เป็นกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด การช่วยเหลือพวกเขาให้เข้มแข็งในระยะเวลาไม่กี่เดือน จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง”
ความกังวลและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วง COVID-19
ผู้บริโภคในแถบเอเชียกว่าร้อยละ 48 มีความวิตกกังวลอย่างมากกับสถานการณ์ COVID-19 ตั้งแต่ก่อนการระบาดในระลอกแรก มีผู้เชื่อมต่อเข้าสู่โลกดิจิทัลมาเป็นจำนวนมาก เพื่อทำการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน พร้อมหยิบยกเครื่องมือ เทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้งานได้รวดเร็วกว่าที่คาดคิดเอาไว้ นอกจากนี้ผู้บริโภคยังเชื่อมต่อกับ ธุรกิจออนไลน์มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยผู้ใช้งาน Facebook จำนวนกว่า 1.6 พันล้านคนได้มีการติดต่อกับธุรกิจขนาดเล็กมากขึ้น เพราะหากลองนึกภาพง่ายๆ ว่า ทุกร้านค้าเปิดให้บริการแบบออนไลน์ แล้ว Facebook คือพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่ทุกร้านสามารถตั้งร้านได้ฟรี ในขอบเขตที่กว้างขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ผู้บริโภคที่มีขีดจำกัดในการค้นหาตามความต้องการของตัวเอง ยังคงจำกัดการพบเจอธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้บน Facebook อยู่ดี

ดังนั้นการที่ผู้ประกอบการรายย่อยของไทย ที่ถือว่าเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ ยังต้องอาศัยการปรับตัวและเปิดรับแนวทางการทำธุรกิจเชิงดิจิทัล เพื่อปลดล็อกโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ พร้อมสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่อพวกเขาเอง และในส่วนนี้เองทางคุณชวดี ก็กล่าวเสริมว่า
“เราสังเกตได้ถึงความเป็นนักสู้ของผู้ประกอบการรายย่อยในไทย ที่ต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค์ครั้งนี้มาอย่างต่อเนื่อง หลายคนก็ปรับโมเดลธุรกิจออนไลน์และฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ไหนจะเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม ที่ทำให้ธุรกิจหลายรายหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลนืมากขึ้น ทำให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อีกหนึ่งช่องทาง สำหรับ Facebook เองก็มีพันธกิจหลักเพื่ออบรม และพัฒนาทักษะเชิงดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้”
กิจกรรม #supportsmallbusiness

ความจริงแล้ว Boost with Facebook เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรม#supportsmallbusiness ของ Facebook ประเทศไทย ที่มุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยของไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเงินทุนสนับสนุนที่มอบโดย Facebook สำนักงานใหญ่ และมีการเปิดตัวเครื่องมือ ฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกมากมาย เพื่อที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนผู้ประกอบรายย่อยทั้งหลาย ให้สามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ณ ปัจจุบันนี้ โครงการ Boost with Facebook ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2562 ได้มีการอบรมธุรกิจไปกว่า 3,000 รายใน 5 ภาค 10 จังหวัดของประเทศไทยแล้ว และตอนนี้เองทางเพจFacebook for Business ก็ได้กลับมาเริ่มแคมเปญใหม่ ที่จัดยาวต่อเนื่องกันไปจนถึงเดือนสิงหาคม ดังที่ได้กล่าวรายละเอียดไปในตอนเริ่มว่า สามารถติดตามเนื้อหาการอบรม โครงการ Facebook for Business บรรยายภาษาไทยในช่วงวันที่ 14 กรกฎาคม – 15 กันยายน พ.ศ.2563 ออกอากาศทุกวันอังคารเวลา 14.00 น.
ติดตามรายละเอียดโครงการ หรือดูเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่
You may like

เรามักจะคุ้นชินกับทฤษฏีการตลาดหลายแบบ เช่น ทฤษฏี 4P เชื่อว่าหลายคนรู้จักกันดี เพราะเป็นทฤษฏีขั้นพื้นฐานในการทำการตลาด แต่ ณ ปัจจุบัน ทฤษฏีนี้อาจจะไม่เพียงพอตอบโจทย์ยุคสมัยที่เทคโนโลยี การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ พัฒนาไปค่อนข้างไกล ยิ่งตอนนี้ที่เราอยู่ในยุค 5.0 ผมจึงขอพาทุกคนมาทำความรู้จักทฤษฏีการตลาดในยุค 5.0 สักหน่อยดีกว่า
Marketing Theory ในแต่ละยุค
ก่อนจะไปรู้จักกับ Marketing5.0 ขอเกริ่นเล่าถึงความเกี่ยวเนื่องกันทางทฤษฏีทางการตลาดของแต่ละยุคก่อนแล้วกัน
- Marketing 1.0 : เน้นเรื่องสิ้นค้า (Product Centric) แข่งขันกันที่สินค้า ใช้หลัก 4P เป็นทฤษฏีหลักในการทำการตลาด ให้ความสำคัญกับการผลิต และมักเชื่อว่ายิ่งผลิตเยอะ ต้นทุนก็ยิ่งต่ำ
- Marketing 2.0 : เน้นเรื่องลูกค้า (Customer Centric) เน้นการสร้าง Segmentation เอาใจกลุ่มเป้าหมายให้เกิดการซื้อซ้ำ ดังที่เห็นกลยุทธ์การสมัครสมาชิกร้านค้า และส่วนลดพิเศษเฉพาะลูกค้าสมาชิกระดับพรีเมี่ยม
- Marketing 3.0 : มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human Centric) ใช้ความเป็นมนุษย์มากกว่าทำการตลาด ใส่ใจ รอบข้าง ให้น้ำหนักกับสังคม มักทำการตลาดเชิง CSR
- Marketing 4.0 : จากสื่อตั้งเดิมไปสู้สื่อดิจิทัล (Traditional to Digital) จุดเปลี่ยนของการตลาด เพราะเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการตลาด และธุรกิจก็เข้าสู่รูปแบบ Digital มากขึ้น เน้นการขายแบบ Online และทำการตลาด Digital Marketing กันมากขึ้น

Marketing 5.0
Marketing5.0 หากจะเรียกในชื่อที่เป็นทางการก็คือ “ทฤษฏีการตลาดเทคโนโลยีสำหรับมวลมนุษยชาติ” (Technology for Humanity) ถ้าจะทำให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ Marketing5.0 เป็นการตลาดที่นำ Marketing3.0 ที่เน้นเรื่องความเป็นทนุษย์ และ Marketing4.0 การตลาดดิจิทัลมารวมเข้าด้วยกัน
เป็นการตลาดที่ทำเพื่อการดำรงอยู่ของสังคมที่ดี ให้ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น

นักธุรกิจและนักการตลาดจะปรับตัวให้เข้ากับ Marketing 5.0 อย่างไร?
ทำความเข้าใจใน Target ของเราให้ครบทุก Generation





หัวใจของารตลาด 5.0 คือใช้เทคโนโลยีเพื่อให้เราเป็นมนุษย์มากขึ้น
Meta เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ส่งเสริมการช้อปปิ้งผ่านกลุ่ม Facebook (hip-th.me)
EDUCATION
วอร์เรน บัฟเฟตต์ กับเคล็ดลับ 5 ข้อในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ
Published
7 เดือน agoon
21 ตุลาคม 2021
เรียนรู้เคล็ดลับ 5 ข้อในการลงทุนของ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ซีอีโอของบริษัทเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ หนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก จากหนังสือ “25 เคล็ดลับการลงทุนของบัฟเฟตต์”
ซื้อธุรกิจไม่ใช่ซื้อหุ้น
บัฟเฟตต์กล่าวไว้ว่า “เมื่อคุณซื้อหุ้น คุณจะได้ซื้อส่วนของธุรกิจนั้นจริงๆ หุ้นไม่มีอะไรในตัวมันเอง นอกจากการเป็นตัวแทนกิจการ” นั่นหมายความว่า ให้คำนึงถึงธุรกิจที่จะลงทุนมากกว่ามูลค่าของหุ้น

จงมองหาบริษัทที่มีแฟรนไชส์
บัฟเฟตต์เปรียบบริษัทที่มีแฟรนไชส์ว่าเหมือนธุรกิจที่มีทั้งกำแพง และคูเมืองล้อมรอบ สามารถป้องกัน และต้านทานศัตรูได้ เป็นเสมือนการรับประกันในความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือในการลงทุนกับธุรกิจนั้น
จงซื้อ Low Tech ไม่ใช่ High Tech
บัฟเฟตต์จะเลือกซื้อหุ้นจากธุรกิจที่เขารัก และสนใจเพราะมันเข้าใจง่าย คาดเดาได้ และมั่นคง แม้จะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่บริษัทเหล่านี้ให้ความมั่นคงในผลตอบแทนได้ ต่างจากบริษัทคลื่นลูกใหม่ที่มักใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ให้ความหวืดหวา และน่าตื่นเต้น แต่ผลตอบแทนมักจะไม่ตกมาถึงนักลงทุน
ลงทุนแบบมุ่งเน้นคุณค่า
บัฟเฟตต์เชื่อมั่นในการลงทุนกับบริษัทที่มั่นใจว่าดี “เมื่อคุณพบหุ้นที่ดี ทำไมคุณถึงซื้อหุ้นแค่นิดเดียว” เขากล่าว นอกจากนี้บัฟเฟตต์ยังไม่เลือกกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยง เพราะเขามุ่งเน้นหวังผลในระยะยาวมากกว่า
อย่ามองแค่ราคาหุ้น
บัฟเฟตต์เชื่อว่าเมื่อได้เป็นเจ้าของหุ้นในธุรกิจที่ดี ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่ใจกับราคาหุ้นในระยะสั้นเลย เพราะในระยะยาวธุรกิจเหล่านั้นจะเป็นผู้ดูแลราคาของหุ้นเอง
โดยหลักๆ แล้ว วอร์เรน บัฟเฟตต์ ให้ความใส่ใจกับการลงทุนในระยะยาวมากกว่า เพราะเขามองว่าหากจะลงทุนอย่างมั่นคง ควรมองภาพมุมกว้างมากกว่าการหวังผลในระยะสั้นๆ เพราะนั้นไม่ต่างอะไรจากการพนัน ซึ่งนั่นไม่ใช่วิสัยทัศน์ของนักลงทุน แต่เป็นเพียงนักเสี่ยงดวงเท่านั้น
หนังสือ 25 เคล็ดลับการลงทุนของบัฟเฟตต์ ยังมี แนวคิดอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก หากมีโอกาสสามารถไปหามาลองอ่านกันดูได้นะครับ
ที่มา : https://bit.ly/3n8kR4U
5 บทเรียนความสำเร็จทางธุรกิจจาก ซีรี่ย์เกาหลีมาแรง Start – Up (hip-th.me)
EDUCATION
JobsDB เผย “ต้องอัพสกิลการทำงานแบบไหน ให้เป็นที่ต้องการของตลาดในปี 64 นี้”
เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน การทำงานต้องไม่ใช่อาศัยแค่ความเก่งอย่างเดียวเท่านั้น เราต้องมีความชำนาญทั้งด้านทักษะการทำงานรวมถึง Mindset ที่ดี วันนี้เราจึงมาสรุปทักษะการทำงานที่จำเป็นที่ต้องการของตลาดในปี 64 นี้!
Published
1 ปี agoon
11 เมษายน 2021By
admin
เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน การทำงานต้องไม่ใช่อาศัยแค่ความเก่งอย่างเดียวเท่านั้น เราต้องมีความชำนาญทั้งด้านทักษะการทำงานรวมถึง Mindset ที่ดี วันนี้เราจึงมาสรุปทักษะการทำงานที่จำเป็นที่ต้องการของตลาดในปี 64 นี้!
ซึ่งข้อมูลที่ได้มาจาก JobsDB ที่ได้มีการเปิดข้อมูลสายงานใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศ หลังจากเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 เช่น นักพัฒนา AI ที่ปรึกษาด้านบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล ผู้เชี่ยวชาญ Business Transformation และ Growth Officer โดยธุรกิจที่มีสัดส่วนและจำนวนในการประกาศงานมากที่สุด คือ
1. กลุ่มธุรกิจไอที นับเป็นเปอร์เซ็นต์ 12.9%
2. กลุ่มธุรกิจการผลิต นับเป็นเปอร์เซ็นต์ 8.1%
3. กลุ่มธุรกิจการค้าปลีก-ส่ง นับเป็นเปอร์เซ็นต์ 6.6%
ส่วนกลุ่มสายงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ได้แก่
1. สายงานขาย บริการลูกค้า และพัฒนาธุรกิจ 16.0%
2. สายงานไอที 14.7%
3. สายงานวิศวกรรม 9.8%

ทำให้อัตราการแข่งขันในการหางานของคนไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 20% ในช่วงโควิด-19 โดยมีอัตราการแข่งขันอยู่ที่ 1 : 100 ใบสมัคร
นอกจากนี้ทาง JobsDB ได้รวบรวมสกิลที่จำเป็นที่คนทำงานในปัจจุบันต้องมี เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดแล้วยังเป็นสกิลสำคัญที่นายจ้างหลาย ๆ แห่งก็ต้องการด้วย
Hard skill ต้องมีทักษะความสามารถด้านอาชีพ หรือความชำนาญในการทำงานด้านนั้นๆ เป็นอย่างดี เช่น ความรู้ด้านไอที, ความรู้ทักษะด้านภาษา, การวิเคราะห์ข้อมูล
Soft skill ทักษะที่ขาดไม่ได้ต้องมาควบคู่กับ Hard skill คือ ทักษะด้านสังคมในการอยู่ร่วมกับคนอื่น เช่น ด้านการสื่อสาร, การทำงานร่วมกันเป็นทีม, การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ หรือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว
Meta skill ทักษะด้านความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง การสร้างทัศนคติที่พร้อมจะเติบโตและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เช่น การรู้จักหรือเข้าใจตัวเอง, มีความคิดสร้างสรรค์, มีความยืดหยุ่นทางความคิด
สำหรับสกิลที่สำคัญ ก็ต้องมาพร้อมกับ Mindset ด้วยที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของคนทำงานในยุคเจนเนอร์เรชั่นนี้
Growth Mindset – ต้องมีความเชื่อมั่น เชื่อในศักยภาพของตนเอง, มีกรอบความคิดที่จะพัฒนาตัวเองและองค์กรให้เติบโตไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน, หรือแม้กระทั่งต้องมีความกล้าที่จะเผชิญปัญหา เรียนรู้ และเติบโตไปกับองค์กร
Outward Mindset – เปลี่ยนมุมมองในการทำงาน และการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น, ทำความเข้าใจผู้อื่น, พร้อมหาวิธีแก้ปัญหา
จริงแล้วแม้ว่าสถานที่การทำบ้างแห่งอาจไม่ได้เน้นย้ำทักษะหรือ Mindset มาก แต่การที่เราพยายามเรียนรู้และปรับตัว มันย่อมส่งผลที่ดีในอนาคตสำหรับการทำงานร่วมกับคนอื่นได้ และยังส่งผลดีกับตัวของเราไม่มากก็น้อยอีกด้วย

สำหรับตอนนี้แนวโน้มทางตลาดแรงงานหลังวิกฤต (Wake-up Talk : Job Market Projection after Crisis) ได้ประเมินไว้ว่าเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2564 จำนวนความต้องการแรงงานในประเทศไทยทั้งจากบนแพลตฟอร์มหางานและช่องทางสื่อกลางออนไลน์อื่น ๆ ฟื้นขึ้นจากจุดต่ำสุดถึง 24.65% โดยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดจากเดือนเมษายน 2563 และเดือนธันวาคม 2563 จากการระบาดระลอกที่ 2

เปิดเบื้องหลังกลยุทธ์การตลาดกระจายสินค้าพรีเมียมให้แมส ของช็อกโกแลต Godiva

แบรนด์กับการแสดงจุดยืน เพราะแค่ขายของอย่างเดียวมันไม่พอ

สรุป 5 เทรนด์พฤติกรรมแต่ละ Gen เลือกเสพสื่อบันเทิงปี 2022 ที่ควรรู้

10 ไอเดียทำ VDO Content ลง IG ดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มขึ้น

4 เสาหลักสำคัญ ของการทำ Customer Retention

โลตัส Pet Us เจาะกลุ่ม Pet Humanization เทรนด์ ตลาดสัตว์เลี้ยง กำลังมาแรง!!

คาดการณ์จากนักวิเคราะห์ Gartner : หาก Netflix มีโฆษณา

OOH กำลังกลับมา : เปิด 4 อินไซต์เพื่อสร้างอิมแพคให้เวิร์กกว่าเดิม

คอนเทนต์แบบไหนโดนใจผู้ใช้ Facebook, IG, Twitter, TikTok มาที่สุด ฉบับปี 2022

JoJo Maman Bébé พร้อมเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนไปสู่ยุคใหม่

แจกฟรี 6 ฟอนต์ ภาษาไทยทางการ

“10 เทรนด์แห่งปี 2020” ที่นักการตลาดต้องรู้!! จาก DATA ลับของ Pinterest

เอาใจคนอยากฝึกภาษาให้เก่ง ด้วย Subtitle บน Netflix พร้อมกัน 2 ภาษา

นักศึกษาจีน โอกาสใหม่ของ (ธุรกิจ) มหาวิทยาลัยไทย?

โหลดฟรี! 40 Duotone Gradient Presets For Photoshop

พี่มาร์ค LIVE เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่จาก “Facebook Shop” ที่เติมเต็มคนขายของแบบเต็มสตรีม

7 เทรนด์ Content Marketing ปี 2021 ที่สายคอนเทนท์ต้องอ่าน!

สื่อชี้! กรมสรรพากร เล็งจะ ตรวจสอบภาษีโดยตรง ขายของออนไลน์หนาวแน่

ข่าวดี! Harvard เปิดให้เรียนออนไลน์ Computer Science ฟรี 9 คอร์ส – ตั้งแต่ For Business ไปจนถึงเขียนเกมส์

อนุมัติแล้วรถไฟฟ้าเชียงใหม่ เริ่มสร้างปี 64 จะผ่านบ้านใครบ้างมาดูกัน
Trending
- CREATIVITY3 ปี ago
แจกฟรี 6 ฟอนต์ ภาษาไทยทางการ
- NEWS UPDATE2 ปี ago
“10 เทรนด์แห่งปี 2020” ที่นักการตลาดต้องรู้!! จาก DATA ลับของ Pinterest
- LIFESTYLE3 ปี ago
เอาใจคนอยากฝึกภาษาให้เก่ง ด้วย Subtitle บน Netflix พร้อมกัน 2 ภาษา
- EDUCATION3 ปี ago
นักศึกษาจีน โอกาสใหม่ของ (ธุรกิจ) มหาวิทยาลัยไทย?
- CONTENT TIPS3 ปี ago
โหลดฟรี! 40 Duotone Gradient Presets For Photoshop
- EDUCATION2 ปี ago
พี่มาร์ค LIVE เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่จาก “Facebook Shop” ที่เติมเต็มคนขายของแบบเต็มสตรีม
- CONTENT TIPS1 ปี ago
7 เทรนด์ Content Marketing ปี 2021 ที่สายคอนเทนท์ต้องอ่าน!
- MARKETING TIPS3 ปี ago
สื่อชี้! กรมสรรพากร เล็งจะ ตรวจสอบภาษีโดยตรง ขายของออนไลน์หนาวแน่