NEWS
GRAMMY ในปี 2022 ที่มาพร้อม 7 แบรนด์พันธมิตรทางการตลาด
Published
2 เดือน agoon

GRAMMY 64th งานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ ได้วนเวียนมาอีกครั้งในปี 2022 พร้อมกันนี้ The Recording Academy ได้ประกาศพันธมิตรทางการตลาดสำหรับงานประกาศรางวัลในปีนี้อย่างเป็นทางการ อาทิเช่น Binance, IBM, Mastercard, Bulova, Hilton, SiriusXM, PEOPLE และแบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย

1.Binance เป็นบริษัท BlockChain ระดับโลกที่อยู่เบื้องหลังการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นพันธมิตรด้านการตลาดของคริปโตรายแรกของงานประกาศรางวัลแกรมในปีนี้ และพร้อมที่จะจะนำโซลูชั่นเทคโนโลยี Web 3.0 มาใช้ในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการก้าวไปสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัล

2.IBM โดดเด่นด้วย AI & CLOUD ที่พร้อมเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์และ Live Pre-Show ด้วย “GRAMMY Insights with IBM Watson” ที่มี AI คอยวิเคราะห์เรื่องราวข่าวสารเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ทำให้สามารถดึงและประมวลผลข้อมูล พร้อมทั้งสร้างข้อมูลเชิงลึกได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งจะแบ่งปันแบบเรียลไทม์ในขณะที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อเดินพรมแดงและส่งต่อไปยังหน้าโปรไฟล์ศิลปินบนเว็บไซต์ ทำให้แฟนเพลงได้ใกล้ชิดกับศิลปินมากยิ่งขึ้น

3.Mastercard พันธมิตรด้านเทคโนโลยีการชำระเงินในส่วนของรางวัลแกรมมี่ รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน GRAMMY U Masterclass เป็นมาสเตอร์คลาสที่มี Hannah Lux Davis ผู้กำกับมิวสิควิดีโอชื่อดังที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับวงการเพลง Pop อีกด้วย

4.Bulova อีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ของโลกที่โลดแล่นมาอย่างยาวนาน พร้อมเฉลิมฉลองให้กับศิลปินที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง ด้วยออกแบบนาฬิกาสุดหรู พร้อมกับโลโก้แกรมมี่ประทับอยู่บนมงกุฎ ซึ่งเป็นส่วนเล็ก ๆ บ่งบอกถึงค่ำคืนอันยิ่งใหญ่ของผู้ชนะที่สามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่ และยังทำมาจากวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์ที่คุณอาจไม่พบในนาฬิกาเรือนอื่น นั่นคือ โลหะผสมแกรมเมียมจากรางวัลต่าง ๆ

5.Hilton เป็นเครือโรงแรมที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจาก Marriott โดยปัจจุบันมีโรงแรมทั้งหมดทุกแห่งอยู่ในเครือประมาณ 5,400 แห่ง มีแบรนด์ในเครือ ดังนี้ Luxury Hotel และ Upper Upscale Hotel นอกจากนี้ยังมีแบรนด์อื่นๆ ส่วนมากจะอยู่ที่อเมริกา ทั้ง Embassy Suites by Hilton, Hilton Garden Inn, Homewood Suites by Hilton และ Home 2 Suites

6. SiriusXM ผู้ให้บริการรายการวิทยุผ่านดาวเทียมรายใหญ่ของอเมริกา ที่พร้อมนำ The GRAMMY Channel กลับมาอีกครั้งเป็นปีที่สอง เป็นช่องที่ดำเนินรายการที่มีเพลงหลากหลายจากผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลประจำปีนี้ทั้ง 30 สาขา

7.PEOPLE เป็นนิตยสารอเมริกันรายสัปดาห์ ในรูปแบบเนื้อหาเกี่ยวกับคนดัง บุคคลที่มีเรื่องราวน่าสนใจ จะออกอากาศจากแกรมมี่พร้อมการแสดงสดนำโดยพิธีกรชื่อดังอย่าง Jeremy Parsons และ Janine Rubenstein พร้อมกับมีบทสัมภาษณ์กับนักแสดงและผู้ได้รับการเสนอชื่อชั้นนำของโลก
Adam Roth ประธานอาวุโสฝ่ายหุ้นส่วนและการพัฒนาธุรกิจ ของ Recording Academy ได้เผยว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรมเหล่านี้ในงานประกาศครั้งนี้ ด้วยการมีส่วนร่วมของพวกเขา เราสามารถเฉลิมฉลองชุมชนดนตรีและผู้สร้างเพลงในรูปแบบใหม่และน่าตื่นเต้นที่ไม่เคยมีมาก่อน เราหวังว่าแฟน ๆ ที่รับชมจะรับรู้ได้ว่านี่จะเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำ”
อ้างอิง : 2022 GRAMMYs Awards Show: Complete Winners & Nominations List
อ่านเรื่องอื่นเพิ่มเติม
You may like
ENGLISH NEWS
JoJo Maman Bébé พร้อมเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนไปสู่ยุคใหม่
Published
1 เดือน agoon
20 เมษายน 2022
JoJo Maman Bébé แบรนด์เสื้อผ้าเด็กในอังกฤษกำลังจะกำลังเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนไปสู่ยุคใหม่ จากสตาร์ทอัพเล็ก ๆ ที่มีจุดเริ่มต้นจาก Laura Tenison เจ้าของธุรกิจเสื้อผ้าที่รักการเดินทาง และใส่ใจในทุกรายละเอียดสำหรับเสื้อผ้าเด็ก แล้วหลังจากนี้สถานการณ์ของแบรนด์จะเป็นยังไงต่อไป?
ย้อนไปเมื่อปี 1992 หลังจากที่ Laura ได้เดินทาง พร้อมกับทำธุรกิจเสื้อผ้าเล็กๆ ในเมือง Brittany ประเทศฝรั่งเศส เธอได้พบกับประสบการณ์เฉียดตายกับการถูกชน ทำให้ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ตลอดระยะเวลาที่เธอพักฟื้นอยู่นั้น คนไข้ที่อยู่ด้านข้างเตียงของเธอต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีแฟชั่นเสื้อผ้าที่ดีสำหรับลูก ๆ ของพวกเขาเหล่านั้นเลย นั่นจึงทำให้เธอเกิดแนวคิดในการแบรนด์นี้ขึ้นมา
จนได้เริ่มต้นแบรนด์นี้อย่างจริงจังเมื่อปี 1993 โดยเปิดตัวจากสำนักงานเล็ก ๆ ในลอนดอน สำหรับแฟชั่นชุดแรกเป็นนำเสนอชุดคลุมท้องและเสื้อผ้าสำหรับเด็กทารกทั้งหมด 30 แบบ และในอีก 3 ปีต่อมา เธอก็ได้คลอดลูกชายคนแรก และเมื่อมีลูกเป็นของตัวเอง เธอเริ่มเข้าใจความต้องการของแม่อย่างแท้จริง จึงได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น
หลังจากยอมแพ้ต่อแรงกดดันจากลูกค้า เธอก็ได้เปิดสาขาแรกใน Battersea ประเทศอังกฤษ ในปี 2002 พร้อมทั้งได้พิสูจน์ความนิยมอย่างล้นหลามจากลูกค้าเก่า และลูกค้าหน้าใหม่ที่ต่างตบแถวเข้ามาเลือกซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการขยายเพิ่มอีกสาขาตามมา จนในที่สุดก็ได้กลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำสำหรับแม่และเด็กในสหราชอาณาจักร ภายในระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์นี้มา
ไม่เพียงแต่ขายสินค้าเท่านั้น ทางแบรนด์ยังพร้อมที่จะสนับสนุนองค์กรการกุศล นั่นจึงทำให้ได้ร่วมงานกับองค์กรการกุศลในท้องถิ่นเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง พร้อมทั้งช่วยเหลือในการระดมทุนและสร้างโรงเรียน 5 แห่ง เป็นการให้การศึกษาแก่เด็ก 1,500 คน นอกจากนี้ยังได้เริ่มโครงการ “From a Mother to Another (FAMTA)” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่อาศัยอยู่ในเลบานอนให้มีคุณภาพดี
และปี 2015 ทางแบรนด์ก็ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลกอีกครั้ง เมื่อดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ได้สวมชุด “Cream Princess Coat” ในขณะเยี่ยมชมกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง “Downton Abbey” นอกจากนี้เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ก็ได้สวมเสื้อ JoJo Peter Pan ในวันเกิดครบ 2 ขวบอีกด้วย
เมื่อบริษัทเติบโตขึ้น ความจำเป็นในการอัพเกรดทางเทคโนโลยีก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงได้ทำการย้ายธุรกิจทั้งหมดไปสู่ระบบซอฟต์แวร์ใหม่ พร้อมกันนี้ก็ยังมุ่งเน้นไปที่การผลิตเนื้อหาวิดีโอมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์และตรงกับกลุ่มลูกค้า ซึ่งในปัจจุบันทางแบรนด์มีร้านค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าใน 50 ประเทศทั่วโลก
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อแบรนด์กำลังถูกขายให้กับร้าน Next บริษัทยักษ์ใหญ่แห่ง High Street พร้อมกับเข้าถือหุ้น 44% ของบริษัทฯ
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางแบรนด์ได้ปรับขึ้นราคาเป็นครั้งแรกในรอบห้าปี เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้นและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ซึ่ง Gwynn Milligan ได้กล่าวว่าบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มขึ้น 4 เท่า พร้อมกับเสริมว่าบริษัทยังต้องรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์บางอย่าง อันมีสาเหตุมาจากการแข่งขันกับคู่แข่งรายย่อย
Milligan เคยร่วมงานกับแบรนด์ในปี 2017 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการค้า ก่อนที่เธอจะเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงหลังจากที่ Next เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ เธอมีแผนการที่จะเปลี่ยนแปลงแบรนด์ให้แตกต่าง และพร้อมที่จะขยายธุรกิจไปทั่วโลก โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานการช็อปปิ้งออนไลน์ในสนับสนุนร้านค้าจริงเพื่อจำหน่ายสินค้าสำหรับเด็ก แต่ ณ ขณะนี้ ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะขายเสื้อผ้าเด็กในร้าน Next หรือไม่
พร้อมกันนั้น Laura กล่าวว่าเธอตื่นเต้นกับ ‘โอกาส’ ที่หุ้นส่วนใหม่นี้จะมอบให้ และเธอรู้สึกภูมิใจเป็นพิเศษในความสำเร็จนี้ โดยการทำให้บริษัทเติบโตจากการสตาร์ทอัพเล็ก ๆ สู่การเป็นแบรนด์สินค้าแม่และเด็กชั้นนำของสหราชอาณาจักร พร้อม ๆ กับการขยายธุรกิจไปทั่วโลก
ในแถลงการณ์ Simon Wolfson ผู้บริหารระดับสูงของ Next กล่าวว่าพวกเขานั้นรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นการผสมผสานผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยมของ JoJo กับ Next และการลงทุนนี้จะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัท แต่เขาคาดว่าการลงทุนจะส่งผลในเชิงบวกหลังจากนั้น
อ้างอิง : JoJo Maman Bébé / Next and finance firms buy JoJo Maman Bebe
อ่านเรื่องอื่นเพิ่มเติม : CLICK
NEWS
วงการตลาด Delivery บ้านเราเริ่มเจอปัญหา Oversupply
Published
1 เดือน agoon
13 เมษายน 2022By
Fai Kunlada
เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาโรคระบาดได้เป็นตัวกระตุ้นให้บางอุตสาหกรรมซบเซาลง แต่ก็ยังเป็นโอกาสที่ให้บางอุตสาหกรรมอย่างวงการ E-commerce ได้เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องด้วยความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และก็เป็นแบบนี้เช่นเดียวกันกับวงการ ‘เดลิเวอรี่’ ในทุกรูปแบบที่ไม่ใช่เฉพาะ Food เท่านั้น
ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลายเจ้าได้เริ่มสร้างธุรกิจเดลิเวอรี่ขึ้นมาแข่งขันกัน ไล่กันไปตั้งแต่แข่งขันกันเรื่อราคาค่าขนส่ง การบริการที่เหนือระดับประทับใจ ไปจนถึงบริการ End-to-end แบบครบวงจร
จากสถิติการขนส่งพัสดุของไปรษณีย์ไทยเมื่อปี 2020 พบว่ามีพัสดุถูกจัดส่งมาถึง 2.4 พันล้านชิ้น ซึ่งในภาพรวมขนส่งบ้านเราทั้งหมดนั้นจึงประมาณการณ์ออกมาได้ว่ามีพัสดุถูกจัดส่ง (โดยหลาย ๆ เจ้า) รวมกันกว่า 3.5 พันล้านชิ้น ส่วนฝั่ง Online food delivery นั้นมีผู้ใช้แอป ฯ สั่งอาหารมากถึง 27 ล้านคน ซึ่งก็มี Grab เป็นเจ้าตลาด โดยมีส่วนแบ่งทางตลาดไปแล้วกว่า 50% และรองลงมาคือ Foodpanda
แต่ถึงแม้โรคระบาดจะมาท่าทีอ่อนลงและทางรัฐก็มีมาตรการผ่อนปรนหลายอย่างเข้ามา อย่างไรก็ตามตลาดขนส่งบ้านเราก็ยังมีโอกาสโตอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงสุดถึง 18.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไปจนถึงปี 2026
แต่อุตสหากรรมนี้กำลังเผชิญกับปัญหา Oversupply
จากการให้สัมภาษณ์ของ Anthony de Ruijter ผู้ช่วยอาวุโสของ Third Bridge บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลการลงทุน กล่าวว่า ตลาดการขนส่งของประเทศไทยนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ Instant delivery market จัดส่งทัน เช่น แกร็บ, ฟู้ดแพนด้า และอีกกลุ่มคือ Express delivery จัดส่งด่วนภายใน 1-2 วัน
ซึ่งทาฝั่งของ Instant delivery หรือจัดส่งทันทีนั้นดูจะยังไม่ค่อยมีปัญหาหรือภาพรวมได้รับผลกระทบมากเท่าฝั่งตลาด Express delivery เพราะปัญหาที่ Express delivery กำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ก็คือคนขับรถส่งของที่ไม่ชำนาญเส้นทางพอ ทำให้การขนส่งมีล่าช้าบ้าง ซึ่งนับเป็นการสูญเสียของช่วง Producivity และเป็นมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องเจอกับเคสที่ต้องขนส่งในพื้นที่ห่างไกล
ด้วยเหตุผลที่ต้องการเพิ่มคน เพื่อเพิ่ม Capacity นี้เองจึงทำให้เริ่มส่อแวว Oversupply ซึ่งอัตราส่วนอุปทานของ Express delivery นั้นอยู่ที่ 2 ต่อ 1 หรือ 1.5 เท่าเลยทีเดียว
แล้วใครคือคนคุมตลาด?
Anthony de Ruijter กล่าวว่าเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซคือผู้คุมตลาด เพราะหลายเจ้าเริ่มทำระบบจัดส่ง In-house ของตนเองขึ้นมาแล้ว ทำให้ลูกค้าได้ราคาถูกลง และจะเกิดการกดดันราคากันไปเองกับขนส่งหลาย ๆ เจ้าไปในที่สุด ซึ่งการแข่งขันนี้จะนำไปสู่ความไม่สมดุลของ Demand-Supply ดังนั้นบริษัทขนส่งจึงต้องเข้าใจว่ามาตราส่วนมีความสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันส่วนใหญ่มีอัตรากำไรที่ติดลบอยู่
และเขายังกล่าวอีกด้วยว่าอุตสาหกรรมขนส่งในไทยจะไม่สามารถทำกำไรให้กับบริษัทได้เท่าที่ควรอีกแล้วในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งทางออกที่ดูเป็นไปได้ที่สุดก็คือการวิธีการส่งกระจายสินค้าออกไปให้ได้มากที่สุด
อ้างอิง : Techwire Asia
INNOVATION
US Banks สร้างรายได้ก้อนโตจากหนี้ของรัสเซีย พร้อมพลิกวิกฤติเป็นโอกาส!!
Published
2 เดือน agoon
11 เมษายน 2022
US Banks หรือธนาคารสหรัฐฯ ถึงแม้จะถอนออกจากรัสเซียแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่สามารถทำกำไรจากรัสเซียได้ กลับกันนี่อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้พวกเขาสามารถเก็งกำไรได้อย่างรวดเร็ว
การขายหนี้ของรัสเซียนั้นเชื่อมโยงกับประธานาธิบดีรัสเซีย ‘Vladimir Putin’ และ ‘การคว่ำบาตร’ จาก Joe Biden จนมาถึงเหตุการณ์ที่ US Banks ได้ถอนตัวออกจากรัสเซีย ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดช่องทางสำหรับการเก็งกำไรรูปแบบใหม่ในการลงทุน ซึ่งถูกมองว่าเป็นวิธีที่ทำกำไรได้ง่ายแต่ไม่ค่อยได้การยอมรับ
แนวคิดนี้คือสิ่งที่เรียกว่า “การค้าพื้นฐานเชิงลบ” ในที่นี้หมายถึงการซื้อพันธบัตรรัสเซียในราคาถูก ควบคู่ไปกับการแลกเปลี่ยนเครดิตไปเป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งทำหน้าที่เป็นประกันการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจเกิดขึ้นของผู้กู้ โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กนิวส์ระบุว่า ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ของรัสเซียเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
ข้อมูลจากเว็บไซต์ MarketAxess แสดงให้เห็นว่าหนี้ของรัสเซียมีการซื้อขายในปริมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ฯ ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ถึง 7 เมษายน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากถึง 5 พันล้านดอลลาร์ฯ ในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2564
Philip M. Nichols ผู้เชี่ยวชาญด้านรัสเซียและความรับผิดชอบต่อสังคมในธุรกิจ และศาสตราจารย์ University of Pennsylvania’s Wharton School กล่าวว่า การซื้อขายพันธบัตรของรัสเซียกำลังซื้อขายกันอย่างดุเดือด มีนักเก็งกำไรจำนวนมากที่ซื้อพันธบัตรเหล่านี้ ซึ่งราคาจะถูกลดระดับอย่างมาก จนเหมือนกับได้มาฟรี ๆ
ในขณะเดียวกัน อัตราพันธบัตรกลับลดลงอย่างมาก โดยพันธบัตรจะครบกำหนดชำระในปี 2571 ถูกซื้อขายที่เพียง 0.34 ดอลลาร์ต่อดอลลาร์ นั่นหมายความว่าอาจต้องใช้เงินมากกว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการทำประกันหลักทรัพย์ของรัสเซียที่ต้องชำระ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สถาบันการเงินของสหรัฐฯ เช่น JPMorgan Chase และ Goldman Sachs กำลังอำนวยความสะดวกในการซื้อขายเหล่านี้ โดยตัวแทนของ JPMorgan กล่าวว่าพวกเขากำลังทำหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลาง และเพียงต้องการช่วยเหลือลูกค้าเท่านั้น “ในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่อง เราได้ช่วยลูกค้าลดความเสี่ยงและจัดการความเสี่ยงของพวกเขาต่อรัสเซียในตลาดรอง” โฆษกกล่าว
โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนจะประเมินมูลค่าหนี้ของรัสเซียโดยพิจารณาว่าจะได้รับการชำระคืนหรือไม่? และความน่าจะเป็นที่จะได้รับการชำระคืนจะขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจรัสเซีย
แต่นั่นไม่ได้เกิดขึ้น เมื่อกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้มีมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งขัดขวางไม่ให้รัสเซียเข้าถึงเงินดอลลาร์ใด ๆ ที่พวกเขาถืออยู่ในธนาคารสหรัฐฯ และอาจเป็นการเพิ่มโอกาสให้รัสเซียผิดนัดชำระหนี้ได้ ซึ่งนั่นอาจไม่เป็นผลดีต่อรัสเซียมากนัก
รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯ ลงมติในสัปดาห์นี้เพื่อยกเลิกสถานะการค้าของประเทศรัสเซีย เป็นการปูทางสำหรับการคว่ำบาตรที่ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น ซึ่งการยกเลิกสถานะดังกล่าวจะขัดขวางการรวมตัวของรัสเซียกับเศรษฐกิจโลก เหล่านักลงทุนคงจะต้องจับตามองกันต่อไปว่า “รัสเซียจะเดินหมากเศรษฐกิจในตานี้อย่างไร?”

เปิดเบื้องหลังกลยุทธ์การตลาดกระจายสินค้าพรีเมียมให้แมส ของช็อกโกแลต Godiva

แบรนด์กับการแสดงจุดยืน เพราะแค่ขายของอย่างเดียวมันไม่พอ

สรุป 5 เทรนด์พฤติกรรมแต่ละ Gen เลือกเสพสื่อบันเทิงปี 2022 ที่ควรรู้

10 ไอเดียทำ VDO Content ลง IG ดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มขึ้น

4 เสาหลักสำคัญ ของการทำ Customer Retention

โลตัส Pet Us เจาะกลุ่ม Pet Humanization เทรนด์ ตลาดสัตว์เลี้ยง กำลังมาแรง!!

คาดการณ์จากนักวิเคราะห์ Gartner : หาก Netflix มีโฆษณา

OOH กำลังกลับมา : เปิด 4 อินไซต์เพื่อสร้างอิมแพคให้เวิร์กกว่าเดิม

คอนเทนต์แบบไหนโดนใจผู้ใช้ Facebook, IG, Twitter, TikTok มาที่สุด ฉบับปี 2022

JoJo Maman Bébé พร้อมเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนไปสู่ยุคใหม่

แจกฟรี 6 ฟอนต์ ภาษาไทยทางการ

“10 เทรนด์แห่งปี 2020” ที่นักการตลาดต้องรู้!! จาก DATA ลับของ Pinterest

เอาใจคนอยากฝึกภาษาให้เก่ง ด้วย Subtitle บน Netflix พร้อมกัน 2 ภาษา

นักศึกษาจีน โอกาสใหม่ของ (ธุรกิจ) มหาวิทยาลัยไทย?

โหลดฟรี! 40 Duotone Gradient Presets For Photoshop

พี่มาร์ค LIVE เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่จาก “Facebook Shop” ที่เติมเต็มคนขายของแบบเต็มสตรีม

7 เทรนด์ Content Marketing ปี 2021 ที่สายคอนเทนท์ต้องอ่าน!

สื่อชี้! กรมสรรพากร เล็งจะ ตรวจสอบภาษีโดยตรง ขายของออนไลน์หนาวแน่

ข่าวดี! Harvard เปิดให้เรียนออนไลน์ Computer Science ฟรี 9 คอร์ส – ตั้งแต่ For Business ไปจนถึงเขียนเกมส์

อนุมัติแล้วรถไฟฟ้าเชียงใหม่ เริ่มสร้างปี 64 จะผ่านบ้านใครบ้างมาดูกัน
Trending
- CREATIVITY3 ปี ago
แจกฟรี 6 ฟอนต์ ภาษาไทยทางการ
- NEWS UPDATE2 ปี ago
“10 เทรนด์แห่งปี 2020” ที่นักการตลาดต้องรู้!! จาก DATA ลับของ Pinterest
- LIFESTYLE3 ปี ago
เอาใจคนอยากฝึกภาษาให้เก่ง ด้วย Subtitle บน Netflix พร้อมกัน 2 ภาษา
- EDUCATION3 ปี ago
นักศึกษาจีน โอกาสใหม่ของ (ธุรกิจ) มหาวิทยาลัยไทย?
- CONTENT TIPS3 ปี ago
โหลดฟรี! 40 Duotone Gradient Presets For Photoshop
- EDUCATION2 ปี ago
พี่มาร์ค LIVE เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่จาก “Facebook Shop” ที่เติมเต็มคนขายของแบบเต็มสตรีม
- CONTENT TIPS1 ปี ago
7 เทรนด์ Content Marketing ปี 2021 ที่สายคอนเทนท์ต้องอ่าน!
- MARKETING TIPS3 ปี ago
สื่อชี้! กรมสรรพากร เล็งจะ ตรวจสอบภาษีโดยตรง ขายของออนไลน์หนาวแน่