CONTENT TIPS
Jaguar ได้รับเสนอชื่อบนนิตยสาร LGBTQ+ ว่าเป็นโฆษณาที่ดึงดูดที่สุดในเดือนตุลาคม
Published
5 เดือน agoon

ต้องยอมรับอย่างยิ่งว่าในเวลานี้ตลาดกลุ่ม LGBTQ+ กำลังเป็นที่น่าจับตามองสำหรับการทำแคมเปญต่างๆ เพราะคนในตลาดกลุ่มนี้มักเป็นอินสไปเรชั่นให้กับคนอีกหลายกลุ่ม ทั้งเรื่องของรสนิยม ความคิดสร้างสรรค์ และการบริโภคของผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งมักจะมีการเริ่มต้นมาจากกลุ่ม LGBTQ+ ฉะนั้นการจะทำการตลาดให้ตรึงใจคนกลุ่มนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย

Jaguar ประสบความสำเร็จในการสื่อสารการตลาดกับกลุ่ม LGBTQ+
แต่สำหรับ Jaguar ถือได้ว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ เนื่องจากได้รับเสนอชื่อบนนิตยสาร Attitude ให้เป็นโฆษณาที่ดึงดูดที่สุดประจำเดือนตุลาคม จากโฆษณา ‘Live Loud’ ด้วยกลยุทธ์การออกแบบที่เรียบง่ายแต่ใช้สีส้มสดมาเพิ่มความจี๊ดให้กับโฆษณาชุดนี้
Jaguar ดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยความโดดเด่นและการสะท้อนทางอารมณ์ ‘Live Loud’ จึงเป็นโฆษณาที่สร้างสรรค์ที่สุดของเดือนตุลาคม อ้างอิงข้อมูลจากการศึกษาของ Kantar’s ‘The Works’ ในด้านกระแสตอบรับจากผู้บริโภค
Jaguar x Attitude
Live Loud เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระยะยาวระหว่าง Jaguar และ Attitude นิตยสารที่มีกลุ่ม LGBTQ+ เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ในงานประกาศรางวัล The Attitude Awards ซึ่งเป็นงานรางวัลที่ใหญ่ที่สุดของชุมชน LGBTQ+ แอนโธนี่ แบรดบิวรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Ja guar Land Rover UK ได้เล่าถึงการจับมือกันในครั้งนี้ว่า
“หากย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว Live Loud เป็นเพียงการร่วมมือล่าสุดจากการทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนาน สิ่งที่สำคัญมากสำหรับผู้ชม LGBTQ+ คือความสามารถในการแสดงความเป็นตัวของตัวเอง และแน่นอนว่าบางครั้งพวกเขาก็ต้องใช้เงินจำนวนมากในการทำเช่นนั้น แต่ความต้องการแสดงตัวตนของพวกเขามีความผูกพันอย่างใกล้ชิดกับจากัวร์อย่างแท้จริง”
จากการวิจัยของแบรนด์พบว่าผู้ที่มีแนวโน้มจะซื้อจากัวร์นั้นจะ ‘ค่อนข้างมั่นในในตัวเอง’ และต้องการแสดงความเป็นเอกลักษณ์ส่วนบุคคล ซึ่งกลุ่ม LGBTQ+ ก็ค่อนข้างมีลักษณะตรงตามนี้อย่างเห็นได้ชัด

Dare to be Original
นอกจากดีไซน์ที่สะดุดตาแล้วยังมีสโลแกนของแคมเปญที่น่าสนใจอย่าง “Dare to be Original” ทำให้ Live Loud ติดอันดับ 8% ของโฆษณาทั้งหมดในสหราชอาณาจักรที่สร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคได้ ซึ่งโฆษณาตัวนี้ถูกมองว่ามีความโดดเด่น และน่าสนใจ อยู่ใน 75% อันดับแรกของโฆษณาด้านความโดดเด่น
Dare to be Original เป็นไอเดียที่เข้ากับผู้บริโภคกลุ่ม LGBTQ + ได้เป็นอย่างดี โดยมีการเล่าเรื่องถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน ซึ่งมีที่มาจากการกล้าแสดงออกของตัวตนส่วนบุคคลอย่างภาคภูมิใจ
โฆษณา Live Loud มีอิทธิพลในการกระตุ้นการตอบสนองทางอารมณ์ โดยใช้อารมณ์ ดึงดูด ภูมิใจ และตื่นเต้น เป็นอารมณ์ที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะในการออกแบบ Live Loud ยังได้รับความนิยมอย่างสูงถึง 44% จากผู้ที่ชื่นชอบโฆษณาชุดนี้ เมื่อเทียบกับสถิติปกติซึง่จะอยู่ที่ 30%
“อารมณ์เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตและความสำเร็จของทุกแบรนด์ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ระดับพรีเมียมและระดับหรู ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่จะได้เห็นพลังทางอารมณ์ของ Live Loud เข้ามาเป็นหนึ่งในจุดแข็งนี้”
Lynne Deason หัวหน้าฝ่าย Creative ของ Kantar กล่าว
“Live Loud เป็นตัวอย่างที่ดีของการโฆษณาบนนิตยสาร และการแสดงให้เห็นว่าแนวคิดที่โดดเด่น ชัดเจน แต่เรียบง่ายซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกลยุทธ์ของแบรนด์ที่แสดงความงามของผลิตภัณฑ์ในรูปแบบที่กระตุ้นอารมณ์สามารถให้ผลตอบรับที่ดีมาก”
Deason กล่าว
สำหรับงานโฆษณาการสร้างแบรนด์อาจเป็น “ความท้าทาย” สำหรับแบรนด์ในกลุ่มยานยนต์ Deason กล่าวว่ามีการโฆษณาที่ใช้กันทั่วไปและการดำเนินการจากแบรนด์หนึ่งไปยังอีกแบรนด์หนึ่งอาจดูคล้ายคลึงกันมาก
โดยรวมแล้วโฆษณาดังกล่าวอยู่ในอันดับ 26% ของโฆษณาในสหราชอาณาจักรที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์

โฆษณาที่ทรงพลังคือโฆษณาที่เชื่อมโยงกับความรู้สึก
ความสำเร็จของ Ja guar ในครั้งนี้คือการใช้ประโยชน์จากการเล่นกับอารมณ์และสร้างประสบการณ์ให้กับผู้ชม ซึ่งกำลังมองหาสิ่งเร้าและสิ่งที่น่าสนใจใหม่ๆ เนื่องจากสมองของมนุษย์มักถูกตั้งโปรแกรมให้ใส่ใจกับสิ่งที่โดดเด่น สะดุดตา ทำให้เกิดความรู้สึกบางอย่างร่วมได้ และมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องส่วนตัวกับผู้บริโภคเอง
ขอบคุณที่มา : https://bit.ly/3yrK2V4
อ่านบทความเพิ่มเติม
You may like
CONTENT TIPS
10 ไอเดียทำ VDO Content ลง IG ดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มขึ้น
Published
3 สัปดาห์ agoon
4 พฤษภาคม 2022By
Fai Kunlada
เป็นที่เข้าใจได้ค่ะ หากในหน้าโปรไฟล์ไอจีธุรกิจของใครหลาย ๆ คนจะเต็มไปด้วยโพสต์ขายของ เพราะเป็นใคร ใครก็อยากเน้นโพสต์ได้ทำหน้าที่แผงขายของสร้างรายได้ให้กับเรา
แต่ถ้าหากเราต้องการพรีเซนต์ธุรกิจเราต่อลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้า การลงแค่คอนเทนต์ Hard sell อย่างเดียวคงไม่มีใครอิน ดังนั้นวันนี้เราจะมาแจก 10 ไอเดียทำ VDO Content ลง IG ดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มขึ้น จาก Social Media Examiner กันค่ะ
ขึ้นชื่อว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ ดังนั้นหลักการของทั้ง 10 ไอเดียนี้จะมาจากหลักการการทำ TOFU (Top-of-Funnel) เพื่อเป็นการแนะนำตัวแบรนด์ให้ลูกค้าใหม่ ๆ ได้หันมาสนใจทำความรู้จักกับเราค่ะ
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อทำวิดีโอไอจีโดยใช้หลักการ TOFU
- เป็นตัวของตัวเอง เพื่อจูงใจให้ลูกค้าเป้าหมายรักเราที่เป็นเรา แล้วกดตุ่มฟอลโลว์เราในที่สุด
- ทำให้ง่ายเข้าไว้ คนเข้ามาใหม่ส่วนมากยังไม่มีใครสนใจข้อมูลเชิงลึกมากหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นแนะนำทำให้เข้าถึงง่ายเข้าไว้และยังแฝงไปด้วย offer ต่าง ๆ ของเราค่ะ
- เล่าเรื่อง หรือ Storytelling การนำเสนอแบบนี้จะทำให้แอค ฯ ของเราดูน่าติดตาม คนกลับมาดูคอนเทนต์เราบ่อยขึ้น
- สั้น ๆ กระชับ เพราะในปีนี้ 2022 IG มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับวิดีโอสั้นกันแล้วค่ะ ดังนั้นความยาวคลิปไม่เกิน 60 วิ คือแนะนำค่ะ
10 ไอเดียทำ VDO Content ลง IG ดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มขึ้น
แนะนำตัวธุรกิจของเรา
แนะนำธุรกิจของเราให้แก่ Potential customers ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับสตอรี่ของธุรกิจ โชว์เคสว่าเรามีสินค้าอะไรบ้าง หรือแม้กระทั่งใครเป็นทีมงานเราบ้าง แบบนี้ก็ได้ แต่ในบางทีหากมีเรื่องเล่าเยอะทำให้วิดีโอยาวเกินไปก็สามารถซอยย่อยออกมาเป็นพาร์ท ๆ ได้ค่ะ
แสดงคุณค่าแบรนด์ของเรา
โชว์ให้ลูกค้าในอนาคตของเราเห็นว่าสินค้าของเรามีดีหรือถูกใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิตขนาดไหน หรือจะนำเอา CEO มาให้สัมภาษณ์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับภาพลักษณ์แบรนด์ก็ทำได้
ยกตัวอย่างจากแอคเคาท์ @kencko ที่นำเสนอ Value ของสินค้าในรูปแบบที่อยากให้ทุกคนมองลึกลงไปว่าภายในนั้นมีส่วนประกอบอะไรอยู่บ้าง โดยการใช้ลูกเล่นแว่นขยายส่องลงไป

แสดงให้เห็นถึงเวย์การใช้สินค้าใหม่ ๆ
ให้แรงบรรดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้าได้อยากลองซื้อสินค้าของเราไปใช้ดูบ้าง หากใครคิดไม่ออกก็ลองนึกถึงการนำโอรีโอไปใช้เป็น Raw material ในการทำขนม/เบเกอรี่ต่าง ๆ ดูก็ได้ค่ะ เคสนี้เคยประสบความสำเร็จแล้วช่วยให้โอรีโอได้เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนได้มาแล้ว
สอนวิธีการใช้หรือเคล็ดลับ DIY
การให้ไอเดียวิธีการใช้สินค้าเวย์ใหม่ ๆ กับลูกค้าก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่หากจะให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นก็ทำวิดีโอสอนการใช้ในแบบของเราไปเลย
Sneak peek สินค้าใหม่
ให้ลูกค้าได้ตื่นเต้นกับสินค้าใหม่ที่เรากำลังจะออกวางขาย โดยการลงสตอรี่เพื่อให้ดูน่าค้นหา เพราะด้วยเนเจอร์ของฟีเจอร์นี้ที่คอนเทนต์จะคงอยู่เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น
เปิดตัวสินค้าใหม่
ให้เกิด Awareness กับโปรดักใหม่ของเรา โดยอาจจะทำเปฌน Reels สั้น ๆ โชว์ว่าสินค้าใหม่ของเราใช้ทำอะไรได้บ้าง ปรับแต่งยังไงได้บ้าง
โชว์เบื้องหลังการทำงาน / การผลิต แบบเล็ก ๆ น้อย ๆ
เพราะว่าคนสมัยนี้ต่างชอบดูอะไรที่เรียล ๆ และดูเข้าถึงได้ การพาทัวร์โรงงานหรือโปรดักไลน์สั้น ๆ ก็ทำให้คนหันมาสนใจเอนเกจกับเรามากขึ้น
บอกสรรพคุณของสินค้า
เพื่อไฮไลต์ถึงความเจ๋งของสินค้าเรา แต่ต้องคำนึงไว้เสมอว่าเราทำโดยอิงหลัก TOFU เพราะฉะนั้นเนื้อหายังไม่ต้องลึกมากค่ะ
ทำคอนเทนต์ขำ ๆ บ้าง
การขายของไม่จำเป็นต้องอัดแต่คอนเทนต์เกี่ยวกับสินค้าเสมอไป การทำคอนเทนต์ขำ ๆ จะช่วยเรียกยอดเอนเกจได้ดีเลยค่ะ
ใช้ฟีเจอร์ไลฟ์สด สื่อสารกับลูกค้าแบบ Real time
เป็นวิธีการที่เรียลและจริงใจกับลูกค้ามากที่สุด และยังสามารถเปลี่ยนลูกค้าจากขั้น TOFU มาเป็น MOFU ได้อีกด้วย
อ้างอิง : Social Media Examiner
CONTENT TIPS
คอนเทนต์แบบไหนโดนใจผู้ใช้ Facebook, IG, Twitter, TikTok มาที่สุด ฉบับปี 2022
Published
1 เดือน agoon
20 เมษายน 2022By
Fai Kunlada
อัปเดตแนวทางการทำคอนเทนต์ในปี 2022 ของแต่ละแพลตฟอร์มยอดฮิตอย่าง Facebook, IG, Twitter และ TikTok กันค่ะ
ทุกวันนี้เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าฟีเจอร์ของแต่ละแพลตฟอร์มนั้นอาจมีหน้าตาที่แตกต่างและคล้ายคลึงกันไปแต่สำหรับนักการตลาดหรือสายคอนเทนต์อย่างเรา ๆ ก็ต้องรู้ว่าในความแตกต่างเล็ก ๆ นี้พฤติกรรมของผู้ใช้แต่ละแพลตฟอร์มมีความคาดหวังในตัวเนื้อหาและสนใจในคอนเทนต์แต่ละประเภทแตกต่างกันไป เพราะบางทีคอนเทนต์ Real time ในแพลตฟอร์มนั้น ๆ อาจไม่ได้ตอบโจทย์และเรียกเอนเกจได้เสมอไปนั่นเองค่ะ
Facebook ยังต้องการ Community-driven

จากการสำรวจ ถึงแม้เหล่าคอนเทนต์ประเภท Funny, Informative, Creative จะถูกโหวตจากผู้ใช้ว่าพวกเขาอยากเห็นบนหน้าฟีดมากที่สุด แต่แท้จริงแล้ว Community-driven นั้นก็ยังเป็นประเภทคอนเทนต์ที่ผู้ใช้ยังให้ความสนใจ กล่าวคือ ผู้บริโภคเกือบ 1 ใน 5 ต้องการเห็นแบรนด์สร้างคอมมูนิตี้ให้พวกเขา
อีกทั้งอ้างอิงจากการวิจัยของ GWI. ยังพบว่า ระดับของเอนเกจเมนต์ในแต่ละกลุ่มเฟซบุคนั้นมีคงที่และสม่ำเสมอ แต่ยังไม่มีค่อยแบรนด์นำข้อดีของการมีกลุ่มความสนใจเฉพาะในเฟซบุคไปใช้ประโยชน์สักเท่าไหร่ เพราะกลุ่มคอมมูนิตี้เหล่านี้คือแหล่งของคนที่มีความสนใจร่วมกัน, ในพื้นที่นั้น ๆ อยู่รวมกัน ซึ่งหากแบนรนด์นำไปต่อยอดก็จะทำให้พบกับกลุ่ม Audience ที่ Specific กับตัวธุรกิจได้มากขึ้น
เพราะด้วยเนเจอร์ของตัวผู้ใช้ Facebook เองที่ไม่ได้มายด์มากเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่ต้องเจาะจงเพื่อพวกเขามาก เพราะพวกเขานั้นก็อยากให้คอนเทนต์ตัวเองแมสเหมือนกัน ดังนั้นโพสต์หน้าฟีดจึงเริ่มไม่ค่อยน่าสนใจเท่า Subculture แล้ว (จากการสำรวจพบว่า ผู้ใช้ 43.2% รู้สึกว่าหน้าฟีดไม่ค่อย Relevant แล้ว)
Instagram คอนเทนต์ต้องชิค

อย่างที่รู้ ๆ กันว่าเมื่อ CEO ของ IG ได้ออกบอกมาว่า IG ไม่ใช่แพลตฟอร์มแชร์รูปอีกต่อไป และจะกลายเป็นแอป ฯ ที่ให้ความบันเทิงแทน ในเมื่อเป็นแบบนี้ Piority ของผู้ใช้ย่อมเปลี่ยน ทำให้คอนเทนต์ประเภทตลกเฮฮา (Funny) กลายเป็นคอนเทนต์ที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุด
ประจวบเหมาะกับช่วงที่โควิดระบาด UGC (User Generated Content) เลยบูมและถูกแชร์อย่างมากในโลกโซเชียล แต่อย่างไรก็ตามเหล่า Instagrammer ก็ยังต้องคงคอนเซปต์ ‘ความชิค’ ไว้อยู่เสมอ สอดคล้องกับผู้ใช้จำนวน 23% ชอบเข้าถึงแบรนด์ที่ดูชิคหรือคูลมากกว่า
Twitter บางส่วนยังเป็นความหวังของสังคม

Twitter ถือว่าเป็นแพลตฟอร์ม Microblogging คล้ายพันทิปในบ้านเราเลยก็ว่าได้ ดังนั้นเนื้อหาในแพลตฟอร์มนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นทางการจ๋าเสมอไปค่ะ เพราะจากความเกร็งนี้ทำให้ผู้ใช้ unliked หรือ unfollowed แบรนด์ไปแล้วกว่า 35% ในเดือนที่ผ่านมา
จริงอยู่ที่เนื้อหาในทวิตเตอร์นั้นจะออกไปในแนวตลกขบขัน แต่แท้จริงแล้วนั้นชาวทวิตเตอร์ไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เพราะพวกเขาสนใจในเรื่องของการเอนเกจ มีส่วนร่วม มากกว่าที่จะมาเสพอะไรขำ ๆ แล้วผ่านไป
Conversation จึงสำคัญกว่า Monologue สำหรับแพลตฟอร์มนี้ ดังนั้นสำหรับนักการตลาดแล้ว ผู้ใช้นั้นคาดหวังที่จะให้แบรนด์รับฟังพวกเขามากกว่าที่จะให้ความรู้แก่พวกเขา (51% VS 38%)
TikTok คอนเทนต์เน้นตลกและครีเอท

ขึ้นแท่นมาเลยอันดับหนึ่งในเรื่องของคอนเทนต์ประเภท Funny ที่ผู้ใช้อยากเห็นบนหน้าเพจมากที่สุด ดังนั้นแบรนด์ที่นำเสนอภาพลักษณ์ตลกแบบไม่ห่วงสวยกันจึงจะได้รับความสนใจจากผู้ใช้ในแพลตฟอร์มนี้ เพราะผู้คนนั้นต่างยกให้ติกตอกเป็นเหมือนพื้นที่ที่คอยปลดปล่อยความติ๊งต๊องออกมา
ตัวอย่างของแบรนด์ที่ทำออกมาได้ดีก็คือ Duolingo แอป ฯ นกฮูกเขียวสอนภาษาที่หลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกัน ซึ่งผลก็คือแบรนด์นี้ดูเป็นบุคคลจับต้องได้มากขึ้น และสามารถเข้าถึงกลุ่ม Audience ที่อายุน้อยได้ดี
สุดท้ายนี้เราก็ต้องกลับมาทำการบ้านกันอีกรอบว่าในคอนเทนต์ของแต่ละทอปปิคที่เราอยากนำเสนอออกไปในแต่ละแพลตฟอร์มนั้นต้องนำเสนอในเวย์ที่แตกต่างกันไป เพื่อการมองเห็นและการเข้าถึงที่มีประสิทธิภาพที่สุดนั่นเองค่ะ
อ้างอิง : GWI
CONTENT TIPS
Shopee ลงแข่งสนามเดือด Food Delivery พร้อมงัดไม้เด็ดพิชิตใจลูกค้า
Published
2 เดือน agoon
11 เมษายน 2022By
Thanakarn
กลายเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม E-commerce ชื่อดังอย่าง Shopee บุกตลาด Food Delivery ทั่วไทย หลังจากได้เปิดตัวก่อนหน้านี้ที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้ผลตอบรับดีเกินคาด ยอดดาวน์โหลดแอปกว่า 500,000 คน พร้อมร้านค้าพาร์ทเนอร์เข้าร่วมกว่า 500 ร้าน
หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ธุรกิจ Food Delivery เติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป Work From Home ตามมาตรการของระงับการแพร่ระบาดของรัฐบาล จึงไม่สามารถเดินทางไปข้างนอกได้สะดวกกว่าเช่นเคย ดังนั้นช่องทางออนไลน์ จึงตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคมากที่สุด

โดยจากผลสำรวจของ Nielsen Thailand กลุ่มพฤติกรรมผู้บริโภคช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์ ปี 2565 เผยว่า กลุ่มร้านอาหาร และ แอปสั่งซื้ออาหาร มีอัตราการเติบโตสูงถึง 647% แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มคุ้นชินกับการสั่งอาหารผ่านแอป และคาดว่าหลังจากวิกฤตโควิด-19 หายไป ธุรกิจ Food Delivery ก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้คาดการณ์ ธุรกิจ Food Delivery ในปี 2565 มีแนวโน้มโตเพิ่มขึ้นประมาณ 4.5% หรือมูลค่าตลาด 7.9 หมื่นล้านบาท กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุผลของศึกสงครามแย่งชิงบัลลังค์ส่วนแบ่งการตลาด Food Delivery อย่างดุเดือด
พื้นที่ยังเหลือ Shopee Food ขอร่วมจอยหน่อย
หลังจากที่ AirAsia เปิดตัวบริการฟู้ดเดลิเวอรี่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดขอต้อนรับน้องใหม่ Shopee Food เพิ่มอีกหนึ่งราย แพลตฟอร์มอี คอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ ผู้ให้บริการสินค้าออนไลน์ พร้อมฐานลูกค้าเก่ามากมาย ที่ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Grab Foodpanda หรือ Line man ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

โดยกลยุทธ์ที่จะเอามาพิชิตใจไรเดอร์ ครองใจลูกค้า สร้างความมั่นใจเลือกใช้บริการ
- รอบวิ่งเยอะ 24 ชั่วโมง : เนื่องจาก Shopee มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว สร้างความมั่นใจให้แก่ไรเดอร์เพิ่มโอกาสรอบวิ่งตลอดทั้งวัน
- ออเดอร์เพียบ : แอปพลิเคชันช้อปปี้เป็นอีกหนึ่งแอปที่มีฐานข้อมูลลูกค้ามากมาย พร้อมช่องทางการชำระแสนสะดวกผ่านช้อปปี้ และ Shopee Pay เพื่อเพิ่มโอกาสรับออเดอร์ได้มากขึ้น
- รับงานเท่าเทียม : ได้มีการตั้งมาตรการแบ่งขั้นการรับงานอย่างเท่าเทียม ด้วยอุปกรณ์เซ็ตใหญ่ หรือ เล็ก ก็วิ่งได้เหมือนกัน
- แจกงานให้เท่ากัน : ระบบการกระจายงานให้แก่ไรเดอร์อย่างเท่าเทียม ไม่มีการทุจริตจ่ายงานลำเอียง

เทรนด์ธุรกิจ Food Delivery เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งทางShopee มองเห็นถึงโอกาสเทรนด์ธุรกิจ FoodDelivery เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงตัดสินใจลงแข่งสนามเดือดในครั้งนี้ด้วย หากดูมูลค่าตลาดรวมย้อนในแต่ละปีจะเห็นได้ว่ามีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี
- ปี 2563 มูลค่าตลาด 68,000 ล้านบาท
- ปี 2564 มูลค่าตลาด 74,000 ล้านบาท
- ปี 2565 คาดว่ามูลค่าตลาด 82,000 ล้านบาท
- ปี 2566 คาดว่ามูลค่าตลาด 90,000 ล้านบาท
จากข้อมูลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบของธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ผู้บริโภคนิยมเลือกใช้บริการแอปสั่งซื้ออาหาร อีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป
สาเหตุของการเติบโตธุรกิจ Food Delivery
ปัจจัยหลักสำคัญของอัตราการเติบโตของธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ เกิดจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ผลักดันให้ผู้คนเข้าสู่โลกออนไลน์โดยปริยาย นอกจากจะอำนวยความสะดวกสบาย รวดเร็ว ยังมีโปรโมชั่น คูปองส่วนลดต่างๆ ของพาร์เนอร์ร้านอาหารชื่อดังมากมาย พร้อมส่งตรงความอร่อยให้ถึงบ้าน
อย่างไรก็ตามShopee ลุยธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การแข่งขันยังคงมีแนวโน้มรุนแรงทวีคูณเรื่อยๆ ซึ่งทุกแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์เพื่อเอาใจผู้ประกอบการร้านอาหาร ไรเดอร์ และผู้บริโภค โดย EIC คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าวิกฤตโควิด-19 คลี่คลายลง แนวโน้มธุรกิจแอปส่งอาหารยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือว่าShopeeFood ยังคงเป็นที่น่าจับตามองอย่างมากในไทย
อ้างอิง : shopeefood / thansettakij / bangkokbiznews.

เปิดเบื้องหลังกลยุทธ์การตลาดกระจายสินค้าพรีเมียมให้แมส ของช็อกโกแลต Godiva

แบรนด์กับการแสดงจุดยืน เพราะแค่ขายของอย่างเดียวมันไม่พอ

สรุป 5 เทรนด์พฤติกรรมแต่ละ Gen เลือกเสพสื่อบันเทิงปี 2022 ที่ควรรู้

10 ไอเดียทำ VDO Content ลง IG ดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มขึ้น

4 เสาหลักสำคัญ ของการทำ Customer Retention

โลตัส Pet Us เจาะกลุ่ม Pet Humanization เทรนด์ ตลาดสัตว์เลี้ยง กำลังมาแรง!!

คาดการณ์จากนักวิเคราะห์ Gartner : หาก Netflix มีโฆษณา

OOH กำลังกลับมา : เปิด 4 อินไซต์เพื่อสร้างอิมแพคให้เวิร์กกว่าเดิม

คอนเทนต์แบบไหนโดนใจผู้ใช้ Facebook, IG, Twitter, TikTok มาที่สุด ฉบับปี 2022

JoJo Maman Bébé พร้อมเข้าสู่การผลัดเปลี่ยนไปสู่ยุคใหม่

แจกฟรี 6 ฟอนต์ ภาษาไทยทางการ

“10 เทรนด์แห่งปี 2020” ที่นักการตลาดต้องรู้!! จาก DATA ลับของ Pinterest

เอาใจคนอยากฝึกภาษาให้เก่ง ด้วย Subtitle บน Netflix พร้อมกัน 2 ภาษา

นักศึกษาจีน โอกาสใหม่ของ (ธุรกิจ) มหาวิทยาลัยไทย?

โหลดฟรี! 40 Duotone Gradient Presets For Photoshop

พี่มาร์ค LIVE เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่จาก “Facebook Shop” ที่เติมเต็มคนขายของแบบเต็มสตรีม

7 เทรนด์ Content Marketing ปี 2021 ที่สายคอนเทนท์ต้องอ่าน!

สื่อชี้! กรมสรรพากร เล็งจะ ตรวจสอบภาษีโดยตรง ขายของออนไลน์หนาวแน่

ข่าวดี! Harvard เปิดให้เรียนออนไลน์ Computer Science ฟรี 9 คอร์ส – ตั้งแต่ For Business ไปจนถึงเขียนเกมส์

อนุมัติแล้วรถไฟฟ้าเชียงใหม่ เริ่มสร้างปี 64 จะผ่านบ้านใครบ้างมาดูกัน
Trending
- CREATIVITY3 ปี ago
แจกฟรี 6 ฟอนต์ ภาษาไทยทางการ
- NEWS UPDATE2 ปี ago
“10 เทรนด์แห่งปี 2020” ที่นักการตลาดต้องรู้!! จาก DATA ลับของ Pinterest
- LIFESTYLE3 ปี ago
เอาใจคนอยากฝึกภาษาให้เก่ง ด้วย Subtitle บน Netflix พร้อมกัน 2 ภาษา
- EDUCATION3 ปี ago
นักศึกษาจีน โอกาสใหม่ของ (ธุรกิจ) มหาวิทยาลัยไทย?
- CONTENT TIPS3 ปี ago
โหลดฟรี! 40 Duotone Gradient Presets For Photoshop
- EDUCATION2 ปี ago
พี่มาร์ค LIVE เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่จาก “Facebook Shop” ที่เติมเต็มคนขายของแบบเต็มสตรีม
- CONTENT TIPS1 ปี ago
7 เทรนด์ Content Marketing ปี 2021 ที่สายคอนเทนท์ต้องอ่าน!
- MARKETING TIPS3 ปี ago
สื่อชี้! กรมสรรพากร เล็งจะ ตรวจสอบภาษีโดยตรง ขายของออนไลน์หนาวแน่